Written by jobusedc

รถกระบะมือสอง เติมอะไรดี ระหว่าง b7 b10

สำหรับคนที่ขับรถกระบะ จะใช้น้ำมันดีเซลซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งตามที่เราทราบกันมาสักพักแล้วว่าได้มีการเปลี่ยนชื่อเรียกน้ำมันดีเซลใหม่เป็น B7 B10 ถึงตอนนี้ก็ยังคงงงๆ กันอยู่ว่าตกลงเปลี่ยนชื่อเป็นอะไร แล้วต้องใช้แบบไหน แถมบางปั๊มก็เขียนบอก บางครั้งก็ไม่บอก ต้องถามเด็กปั๊มอยู่เรื่อยไป เอาเป็นว่าเรามาทำความเข้าใจกับชนิดของน้ำมันดีเซลที่เราเรียกใหม่กันก่อน เวลาเติมน้ำมันจะได้ไม่สับสน

น้ำมันดีเซล B7

น้ำมันดีเซลแบบเดิมๆ ที่เราเคยใช้กันนั้น มีชื่อพ่วงท้ายเพิ่มขึ้นมาคือ ดีเซล B7 ความแตกต่างในการเรียกนั้นอยู่ที่สัดส่วนของไบโอดีเซล โดยน้ำมันดีเซล B7 มีสัดส่วนของไบโอดีเซลผสมอยู่ในน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 6.6 – 7.0% นั่นก็หมายความว่าจะมีปริมาณน้ำมันดีเซลมากกว่าไบโอดีเซลที่ใส่ลงไป เหมาะสำหรับรถเก่าและรถยุโรป ซึ่งถ้าใครไม่แน่ใจก็ใช้แบบ B7 ชัวร์ที่สุด

น้ำมันดีเซล B10

น้ำมันดีเซล B10 ขยับขึ้นมาเรียกว่า ดีเซล เฉยๆ โดยมีสัดส่วนไบโอดีเซลผสมอยู่ในน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 9 – 10% เท่ากับมีน้ำมันดีเซลสัดส่วนลดลงไปจากเดิม ซึ่งตอนนี้ถือเป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐานของไทย เหมาะสำหรับรถกระบะที่ไม่เก่ามาก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการใช้น้ำมันดีเซลที่มีราคาถูกลงกว่าเดิม แต่ต้องมั่นใจว่ารถของเราสามารใช้ B10 ได้

คุณสมบัติของไบโอดีเซลที่แตกต่างจากดีเซลปกติ

  • มีคราบไขมันสูง เพราะสกัดจากปาล์มน้ำมัน
  • จับตัวเป็นก้อนไขหากเจออุณหภูมิเย็น
  • มีอัตราเกิดน้ำในถังน้ำมันสูงกว่าน้ำมันดีเซลปกติ เป็นต้นเหตุของสนิมในถังน้ำมัน
  • การเจอกับน้ำที่เกิดในถังน้ำมันจะทำให้เกิด “ชั้นคราบไขมัน” หรือที่เรียกกันว่า แว๊กซ์ (Wax)
  • อัตราเชื้อราและแบคทีเรียในชั้นคราบไขมันสูง เนื่องจากสกัดจากพืช (น้ำมันปาล์ม )
  • เกิดเมือกเหนียว Biofilm จากการย่อยสลายน้ำมันไบโอดีเซลของเชื้อราและแบคทีเรียซึ่งเมือกเหนียวนี้มีความเป็นกรดสูง และจะเกาะติดกับเครื่องยนต์ ตะกอน คราบสนิม หรือผิวชิ้นส่วนก่อเป็นก้อนอุดตันในเครื่องยนต์ รวมถึงกัดกร่อนชิ้นส่วนสัมผัสในเครื่องยนต์ด้วย

เลือกใช้น้ำมันแบบไหนดี?

  • ถ้าเป็นรถกระบะทั่วไป และไม่ได้เป็นรถเก่า ก็สามารถใช้น้ำมันดีเซล B10 ได้ หรือที่เปลี่ยนชื่อเป็น ดีเซล เช่น Toyota, Izusu, Nissan, Ford, Chevrolet, Mitsubishi เป็นต้น
  • ถ้าเป็นรถเก่า หรือรถยุโรป และไม่แน่ใจว่ารถของเราจะใช้ B10 ได้หรือเปล่า แนะนำให้เลือกใช้ ดีเซล B7 ชัวร์กว่า เพราะเป็นน้ำมันแบบเดิมที่เราเคยเติมอยู่ปกติก่อนเปลี่ยนชื่ออยู่แล้ว อีกทั้งได้สัดส่วนของน้ำมันดีเซลมากกว่าแบบ B10 เช่น Benz, Hyundai, Tata, Bmw, Honda, Mazda, Audi เป็นต้น
  • แถมให้อีกนิด ถ้าใครอยากใช้น้ำมันที่พรีเมียมกว่าเพื่อความมั่นใจ ให้เลือก ดีเซล B7 พรีเมียม

สาเหตุที่ห้ามเติม B10

รถยุโรปยังไม่พร้อมใช้ B10 เพราะคุณภาพน้ำมันในบ้านเรา ยังมีปริมาณโมโนกลีเซอไรด์ที่ไปสะสมในระบบ จนเกิดปัญหาไส้กรองและหัวฉีดอุดตันได้ในระยะยาว หากเป็นไปได้ นอกจากเติม B7 แล้ว ยังควรเติมน้ำมันดีเซล B7 แบบพรีเมียม ที่มีสารชะล้างหัวฉีดในตัว ทำให้ช่วยถนอมหัวฉีดคอมมอนเรล ซึ่งมีราคาอะไหล่แพงหูดับ ส่วนรถดีเซลรุ่นเก่า ที่ยังไม่เป็นคอมมอนเรล ก็ไม่แนะนำให้เติม เพราะจะไปอุดตันปั๊มสาย และกัดวัสดุยางให้กรอบแตกง่ายยิ่งขึ้นไปอีก

หากเผลอเติมไปแล้วทำไงดี ?

เนื่องจากหัวจ่ายน้ำมัน B7 กับ B10 อยู่ใกล้กันมาก ทำให้รถยนต์บางคันที่เติม B7 ได้เท่านั้น กลับเผลอเติม B10 เข้าถังไปแล้ว ก็ไม่ต้องตกใจรีบล้างถังให้เสียของ เพราะยังสามารถสตาร์ทใช้งานได้ชั่วคราว ไม่ได้พังในทันที และสามารถเติม B7 ผสมเข้าไปเพิ่มได้ทันที จากนั้นก็หมั่นตรวจเช็คกรองเชื้อเพลิง ให้เปลี่ยนในระยะทางที่กำหนดทันที อย่ายืดอายุทนใช้ต่อ เท่านี้รถเก่าของเราก็จะอยู่ร่วมกับเชื้อเพลิงยุคใหม่ได้อย่างสบายใจ

รถใครที่เติม B10 มาแล้วเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร แล้วรู้สึกว่ารถปกติ ยังไม่มีปัญหาอะไร นั่นเพราะว่าน้ำมัน B10 จะไม่ทำอันตรายต่อรถในแบบทันทีทันใด แต่จะค่อย ๆ พอกพูนปัญหาทีละเล็กทีละน้อย จนทำให้ต้องเสียค่าซ่อมใหญ่ในอายุเร็วกว่ากำหนด ซึ่งคนที่รักรถจริง ก็มักจะอยากให้รถอยู่คู่กับเราไปนาน ๆ

รถกระบะมือสอง เติมอะไรดี ระหว่าง b7 b10 By Jobusedcar

ใส่ความเห็น

Your email address will not be published. Required fields are marked *