ดูแลรถมือสองอย่างไรให้คงสภาพการใช้งานยาวนาน
อายุเฉลี่ยของรถยนต์ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 14 ปี ในขณะที่อายุเฉลี่ยของรถยนต์บนท้องถนนอยู่ที่เกือบแปดปี แต่ไม่ต้องกังวล Job Used Car มีขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้ยานยนต์ของคุณมีโอกาสที่ดีที่สุดที่จะใช้งานได้ยาวนาน
ด้วยบทความความช่วยเหลือจาก Job Used Car เราได้รวบรวมรายการคำแนะนำที่ปฏิบัติตามได้ง่ายเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการวิ่ง และทำให้รถของคุณอยู่บนถนนต่อไปอีกหลายปี มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. หม้อน้ำ ต้องตรวจเช็คที่บริเวณหม้อน้ำของรถว่ามีรอยรั่วหรือคราบสนิมจากการแห้งของน้ำ และที่สำคัญ ปริมาณน้ำในหม้อน้ำเมื่อใช้งานมีการลด หรือขาดไปหรือไม่ถ้าขาดต้องรีบไปให้ช่างตรวจเช็คหม้อน้ำ หรือหาสาเหตุการรั่วของน้ำ
2. ถ่ายของเหลวทุกชนิด หรือตรวจเช็คสิ่งเหล่านี้ น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเฟืองท้าย, น้ำมันเบรก, น้ำ มันคลัตช์, น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์, น้ำมันกระปุกพวงมาลัย, น้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำ ฯลฯ เพราะสิ่งเหล่าเราไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า มีอยู่ในปริมาณและคุณภาพตามเกณฑ์ที่มาตรฐานที่รถต้องการหรือไม่ เพราะฉะนั้นการตรวจเช็คสิ่งเหล่าของเหลวเหล่านี้เป็นการ ยืดอายุการใช้งาน และเพื่อความสบายใจในการขับขี่
3. กรองอากาศ เราสามารถแกะออกมาดูได้ว่าอยู่ในสภาพที่ใช้ต่อได้หรือไม่ แต่เพื่อประสิทธิภาพของรถ เราควรเปลี่ยนใหม่ดีที่สุด
4. แบตเตอรรี่ ส่วนใหญ่ที่ตัวแบตจะมีการทำสัญลักษณ์วันที่มีการเริ่มใช้งานแบตแต่ละลูก โดยแบตเตอรรี่นั้น อายุการใช้งานพอเริ่มเกิน 1 ปีก็จะเริ่มออกอาการให้เห็นว่าเริ่มเสื่อมสภาพ ไม่สามารถเก็บไฟได้เต็มประสิทธิภาพต่อการใช้งาน ดังนั้นเพื่อความสบายใจ เปลี่ยนใหม่เลยจะดีกว่า
5. ระบบเบรก ถ้าตรวจดูที่หม้อสมเบรกแล้วปริมาณน้ำมันเบรก ไม่มีการขาด ก็เลื่อนมาดูที่สายเบรก ว่าไม่มีรอยคราบน้ำมันอะไรเยิ้มอยู่ ถ้ามีให้เปลี่ยนสายเบรกเพื่อความปลอดภัย ส่วนผ้าเบรก ถ้าตอนเบรกไม่มีเสียงก็สามารถใช้ต่อไปได้
6 ท่อยาง ในจุดต่างๆ ของเครื่องยนต์ ถ้ามีคราบน้ำมันเยิ้ม ให้เห็นควรรีบไปตรวจเช็คกับทางช่าง เพื่อเปลี่ยนท่อ เหล่านั้น เพราะอาจเกิดจากอายุการใช้งานทำให้ท่อเหล่านั้นเสื่อมสภาพ และมีการรั่วในแต่ละจุดได้
แม้ว่าคุณจะได้รถมือสองมาในสภาพดีเพียงใด เมื่อมาถึงมือคุณแล้ว ก็ควรตรวจเช็คทั้ง 6 ข้อที่กล่าวมานี้อย่างละเอียดด้วยนะครับ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้รถของคุณมากยิ่งขึ้น